ญิ๋ง เก๋ ข๊ะ

หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สนุกกับศิลปะ




มิ๊กกี้เมาส์...เอาไประบายสีกันจร้า









แบบฝึกหัด 1

ภาษาอังกฤษ 2




1. head                             ศีรษะ
2. hair                              ผม
3. forehead                      หน้าผาก
4. temple                         ขมับ
5. face                             ใบหน้า
6. eye                              ตา
7. eyebrow                      คิ้ว
8. eyelid                          หนังตา
9. eyelashes                    ขนตา
10. iris                            ม่านตา
11. pupil                         รูม่านตา
12. cornea                      กระจกตา
13. ear                            ใบหู
14. earlobe                     ติ่งหู
15. nose                          จมูก
16. nostril                       รูจมูก
17. cheek                        แก้ม
18. jaw                           ขากรรไกร
19. mouth                        ปาก
20. lip                             ริมฝีปาก
21. tooth-teeth                 ฟัน
22. tongue                       ลิ้น
23. chin                           คาง
24. sideburn                    จอนหู
25. mustache                   หนวด
26. beard                        เครา
27. neck                          คอ
28. shoulder                   ไหล่
29. chest                         หน้าอก
30. abdomen                   ท้อง
31. back                         แผ่นหลัง
32. arm                          แขน
33. armpit                      รักแร้
34. elbow                      ข้อศอก
35. waist                       เอว
36. hip                           สะโพก
37. buttocks                   ก้น
38. leg                           ขา
39. thigh                        ต้นขา
40. knee                        หัวเข้า
41. calf                         น่อง
42. shin                         หน้าแข้ง




ตัวอย่าง
A: Ooh!
B: What is the matter?
A: My ....chest hurts!

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 1

คำศัพท์เกี่ยวกับอารมณ์






เบื่อหน่าย  1. tired





ง่วงเหงาหาวนอน2. sleepy




เหนื่อยหอบ3. exhausted






ร้อน4. hot






หนาว5. cold






หิวโหย6. hungry






กระหายน้ำ7. thirsty







อิ่มแปล้8. full





เจ็บป่วย9. sick/ill






มีความสุข10. happy






ปลื้มปิติ11. ecstatic






เศร้า/ไม่มีความสุข12. sad/unhappy







เป็นทุกข์13. miserable





พึงพอใจ14. pleased






ผิดหวัง15. disappointed






หัวเสีย 16. upset






ตัวอย่าง
A: Are you ...tired..?
B: No. Why do you ask? DO I Look ....tired..?
A: Yes. you do
B: I am ....exhausted.
A: Why?
B: ..............

ภาษาไทย

ภาษาไทย


     เนื่องจากวิชาภาษาไทยมีเนื้อหาในการศึกษาค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับประโยคต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำรายงานหรือการเขียนจดหมาย การอภิปราย แม้กระทั้งการศึกษาเกี่ยวกับสำนวนไทย วรรณคดี ร้อยแก้ว ร้อยกรอง และเรื่องสั้นต่าง ๆ ดังนั้นวิชาภาษาไทยจึงเป็นอีกวิชาหนึ่งที่มีความสำคัญและมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก และวิชาภาษาไทยยังสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของคนเราอีกด้วย




 ลักษณะสำนวนไทย


ข้อความที่เป็นสำนวนไทยมีลักษณะดังนี้ คือ
                                                                                                                                                 1. มีความหมายโดยนัย คือความหมายม่ตรงตัวตามความหมายโดยอรรถ พูดอย่างหนึ่งม ีความหมายอีกอย่างหนึ่ง เช่น
กินปูนร้อนท้อง - รู้สึกเดือดร้อนเพราะมีความผิดอยู่

ขนทรายเข้าวัด - ร่วมมือร่วมใจกันทำบุญ
ฤษีเลี้ยงลิง - เลี้ยงเด็กซุกซน เป็นต้น


     2. ใช้ถ้อยคำกินความมาก การใช้ถ้อยคำในสำนวนส่วนใหญ่เข้าลักษณะใช้คำน้อยกินความมาก เนื้อความมีความหมายเด่น เช่น ก่อหวอด ขึ้นคาน คว่ำบาตร ขมิ้นกับปูน คมในฝัก กิ้งก่าได ้ทอง ใกล้เกลือกินด่าง เด็ดบัวไว้ใย ซึ่งล้วนมีความหมายอธิบายได้ยืดยาว ส่วนที่ใช้ถ้อยคำหลายคำ แต่ละคำก็ล้วนมีความหมายและช่วยให้ได้ความกระจ่างชัดเจน


     3. ถ้อยคำมีความไพเราะ การใช้ถ้อยคำในสำนวนไทยมักใช้ถ้อยคำสละสลวยมีสัมผัสคล้องจอง เน้นการเล่นเสียงสัมผัสสระ สัมผัสอักษร ให้เสียงกระทบกระทั่งกัน เกิดความไพระน่าฟังทั้ง สัมผัสภายในวรรคและระหว่างวรรค มีการจัดจังหวะคำหลายรูปแบบ เช่น เป็นกลุ่มคำซ้อน 4 คำ อย่าง ก่อกรรมทำเข็ญ ก่อร่างสร้างตัว คู่ผัวตัวเมีย คู่เรียงเคียงหมอน คำซ้อน 6 คำ เช่น ขิงก็ราข่าก็แรง ขี้ก้อนใหญ่ให้เด็กเห็น ยุให้รำตำให้รั่ว ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง คำซ้อน 8 คำ หรือมากกว่าบ้าง เช่น ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง กำแพงมีหูประตูมีตา เป็นต้น


ลักษณะสัมผัสคล้องจองเป็นร้อยกรองง่ายๆ หลายรูปแบบ มีทั้งคล้องจองกันในข้อความตอน เดียว เช่น ตื่นก่อนนอนหลัง ต้อนรับขับสู้ ผูกรักสมัครใคร่ โอภาปราศรัย และคล้องจองในข้อ ความที่เป็น 2 ตอน ซึ่งมีอยู่จำนวนมากและในข้อความมากกว่า 2 ตอน เช่น น้ำมาปลากินมด น้ำลดมดกินปลา เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ อย่าไว่ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง เป็นต้น




     4. สำนวนไทยมักมีการเปรียบเปรย หรือมีประวัติที่มา ส่วนใหญ่มาจากการเปรียบเทียบกับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ประเพณี ศาสนา นิยาย นิทานต่างๆ กิริยาอาการ และส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตัวอย่างเช่น กลับหน้ามือเป็นหลังมือ นอนตาไม่หลับ ใจดีสู้เสือ กินไข่ขวัญ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เป็นต้น















http://...www.hotmail.com


http://...www.eotoday.com


http://...www.madoo.com